Black Panther: Wakanda Forever
รีวิวหนัง Black Panther: Wakanda Forever
“Black Panther: Wakanda Forever” หรือ “แบล็ค แพนเธอร์: วาคานด้าจงเจริญ” เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่จาก Marvel Studios ที่สร้างความหวังและความตื่นเต้นแก่แฟนๆ หลายคน หลังจากความสำเร็จของภาคแรกในปี 2018 ภาคนี้ยังคงนำเสนอเรื่องราวที่ลึกซึ้งและมีอารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการสูญเสียที่สำคัญในทีมงานของหนัง
นักแสดง
ในภาคนี้นักแสดงหลักประกอบด้วย:
- Letitia Wright รับบท Shuri
- Lupita Nyong’o รับบท Nakia
- Danai Gurira รับบท Okoye
- Winston Duke รับบท M’Baku
- Angela Bassett รับบท Ramonda
- Tenoch Huerta รับบท Namor
- Martin Freeman รับบท Everett K. Ross
คะแนน
คะแนนจาก IMDB: 7.3/10
คะแนนจาก Rotten Tomatoes: 84%
สรุปเรื่องราว
เรื่องราวใน “Black Panther: Wakanda Forever” เกิดขึ้นหลังจากการสูญเสีย T’Challa (รับบทโดย Chadwick Boseman) ซึ่งเป็น Black Panther ในภาคก่อนหน้า ตัวหนังพาเราไปสำรวจความรู้สึกของตัวละครหลักอย่าง Shuri (Letitia Wright) ที่ต้องรับมือกับการสูญเสียพี่ชายและบทบาทใหม่ในฐานะผู้นำของ Wakanda
ในขณะเดียวกัน Wakanda ก็ต้องเผชิญกับภัยคุกคามใหม่จาก Namor (Tenoch Huerta) ผู้มีพลังพิเศษที่นำทัพจากใต้ทะเล และมีวัตถุประสงค์ที่คุกคามความสงบสุขของโลก ชาว Wakanda ต้องรวมตัวกันเพื่อปกป้องบ้านเกิดของพวกเขาและหาทางตอบโต้ภัยคุกคามนี้
หนังนำเสนอธีมที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการสูญเสีย การต่อสู้เพื่อความยุติธรรม และความแข็งแกร่งของครอบครัวและชุมชน นอกจากนี้ยังมีฉากแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้นและการออกแบบฉากที่สวยงามที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมแอฟริกัน
ในช่วงท้ายของเรื่อง ตัวละคร Shuri ต้องเผชิญกับความจริงและเรียนรู้ที่จะก้าวต่อไป แม้จะมีการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเธอ ความรู้สึกของการสืบทอดและการทำหน้าที่เพื่อรักษาความเป็นหนึ่งเดียวของ Wakanda เป็นจุดสำคัญที่ทำให้หนังมีความลึกซึ้งและน่าประทับใจ
โดยรวมแล้ว “Black Panther: Wakanda Forever” ไม่เพียงแต่เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีความบันเทิง แต่ยังเป็นการส่งต่อมรดกของ T’Challa และความสำคัญของการอยู่ร่วมกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก สำหรับผู้ที่รักหนังซูเปอร์ฮีโร่หรือแฟนๆ ของ Marvel คงไม่ควรพลาดกับการเดินทางครั้งนี้
หากคุณสนใจในรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถอ่านได้ที่ รีวิวหนัง ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจหนังเรื่องนี้ได้ดีขึ้น